รายได้จากแผนการตลาดของ DasCoin
รายได้จากแผนการตลาดจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ข้อ
1. ค่าแนะนำตรง 10%
อันนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เราแนะนำคนมาซื้อเหรียญ DasCoin ได้เท่าไหร่
บริษัทจ่ายให้เราเลย 10% จากยอดที่เขาซื้อครับ เช่น ถ้าเขาซื้อ 1 ล้านบาท
เราก็รับรายได้จากข้อนี้ไปเลย 1 แสนบาท คำนวนแล้วจ่ายให้ทันที
หลังจากที่คนที่ซื้อ เขาจ่ายเงินเลยครับ
แล้ว... 10% ที่เราได้มา จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วนครับ คือ 60%
จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 40% จ่ายเป็น Cycle
เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
2. รายได้จากสายงานไบนารี่ ฝั่งอ่อน 10%
คำว่าสายงานไบนารี่ คือ เรามีคนติดตัวได้แค่สองคน คือ ซ้าย กับ ขวา
คนถัดไปที่เราแนะนำมา จะถูกส่งลงไปต่อลูกทีมเรา รายได้ข้อนี้ จะจ่ายเป็นรายสัปดาห์ครับ ซึ่งวิธีคำนวนก็คือ
เอายอดซื้อเหรียญของแต่ละฝั่งมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นเราแนะนำเอง
หรือคนที่อยู่ในทีมเราแนะนำ เอามารวมกันหมด ฝั่งไหนน้อยกว่า
บริษัทจะจ่ายให้เรา 10% จากยอดฝั่งน้อยครับ เช่น ขวา มียอดซื้อรวม 10
ล้านบาท และซ้ายมียอดซื้อรวม 1 ล้านบาท บริษัทจะจ่ายให้ 10% จากยอดฝั่งน้อย
ซึ่งก็คือฝั่งซ้าย และ 10% ของ 1 ล้านบาท ก็คือ 1 แสนบาท นั่นเองครับ
และรายได้ 10% ที่เราได้มา จะถูกแบ่งเป็น 60:40 เหมือนข้อที่ 1 เลยครับ
Note : การจะมีรายได้จากข้อนี้ ตัวเราจะต้องมีลูกทีมที่เราแนะนำตรงอย่างน้อย ซ้าย 500 ยูโร และ ขวา 500 ยูโร
3. แมทชิ่ง โบนัส 5 ชั้นลึก (10% - 30%)
*** คำว่า แมทชิ่ง โบนัส คือ รายได้จากลูกทีมที่เราแนะนำตรงได้ คำนวนจ่ายเป็นรายสัปดาห์ ดังนี้
ชั้นที่ 1 (ชั้นลูก) : สมมุติว่าเรามีคนที่เราแนะนำตรงมา 19 คน
แล้วแล้วแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ (อาจไม่เท่ากันในแต่ละคน) เราจะมีรายได้
10% จากรายได้ของแต่ละคน และรายได้จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วน คือ 6% จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 4% จ่ายเป็บ Cycle เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
ชั้นที่ 2 (ชั้นหลาน) : ในชั้นนี้ คือลูกทีมจากชั้นที่ 1 แนะนำมา แล้วแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ เราจะมีรายได้ 15% จากรายได้ของแต่ละคน และรายได้จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วน คือ 9% จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 6% จ่ายเป็บ Cycle เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
ชั้นที่ 3 (ชั้นเหลน) : ในชั้นนี้ คือลูกทีมจากชั้นที่ 2 แนะนำมา แล้วแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ เราจะมีรายได้ 20% จากรายได้ของแต่ละคน และรายได้จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วน คือ 12% จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 8% จ่ายเป็บ Cycle เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
ชั้นที่ 4 (ชั้นโหลน) : ในชั้นนี้ คือลูกทีมจากชั้นที่ 3 แนะนำมา แล้วแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ เราจะมีรายได้ 25% จากรายได้ของแต่ละคน และรายได้จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วน คือ 15% จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 10% จ่ายเป็บ Cycle เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
ชั้นที่ 5 (ชั้น อะไรไม่รู้ครับ เรียกไม่ถูก) : ในชั้นนี้ คือลูกทีมจากชั้นที่ 4 แนะนำมา แล้วแต่ละคนมีรายได้เท่าไหร่ เราจะมีรายได้ 30% จากรายได้ของแต่ละคน และรายได้จะถูกนำมาแบ่งเป็นสองส่วน คือ 18% จ่ายเป็นเงิน ยูโร สมารถโอนออกมาได้เลย และอีก 12% จ่ายเป็บ Cycle เอาไว้แลกเป็นเหรียญ DasCoin
แต่... การที่เราจะมีรายได้กี่ชั้น นั้น มีคุณสมบัติเพิ่มเติมครับ คือ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งเราด้วยครับ
มีทั้งหมด 6 ตำแหน่ง
1. Basic : คุณสมบัติ คือ ซิ้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง 100 ยูโร (Standard License) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 500 ยูโร ตำแหน่งนี้ จะยังไม่ได้แมทชิ่ง โบนัส
2. Bronze : คุณสมบัติ คือ ซื้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง
500 ยูโร (Manager License) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 2,500 ยูโร
ตำแหน่งนี้ จะได้แมทชิ่ง โบนัส 1 ชั้น และรับรายได้สูงสุดที่ 2,000 ยูโร
ต่อ สัปดาห์
3. Silver : คุณสมบัติ คือ ซื้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง 2,000 ยูโร(Pro license) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 8,000 ยูโร ตำแหน่งนี้ จะได้แมทชิ่ง โบนัส 2 ชั้น และรับรายได้สูงสุดที่ 5,000 ยูโร ต่อ สัปดาห์
4. Gold : คุณสมบัติ คือ ซื้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง 5,000 ยูโร (Excutive License) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 25,000 ยูโร ตำแหน่งนี้ จะได้แมทชิ่ง โบนัส 3 ชั้น และรับรายได้สูงสุดที่ 15,000 ยูโร ต่อ สัปดาห์
5. Platinum : คุณสมบัติ คือ ซื้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง 12,500 ยูโร(Vice-Presidesnt License) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 75,000 ยูโร ตำแหน่งนี้ จะได้แมทชิ่ง โบนัส 4 ชั้น และรับรายได้สูงสุดที่ 25,000 ยูโร ต่อ สัปดาห์
6. Titanium : คุณสมบัติ คือ ซื้อ License DasCoin ด้วยตัวเอง 25,000 ยูโร (President License) หรือ มียอดแนะนำตรง สะสม 150,000 ยูโร ตำแหน่งนี้ จะได้แมทชิ่ง โบนัส 5 ชั้น และรับรายได้สูงสุดที่ 35,000 ยูโร ต่อ สัปดาห์
ผู้ร่วมก่อตั้ง DasCoin
Das Coin เกิดจากการรวมตัวของ 4 บริษัทใหญ่ ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบความสำเร็จในด้าน ที่เกี่ยวข้อง คือ
1. NetLeaders ทำหน้าที่ บริหารการตลาด การเตรียมความพร้อม Package การลงทุน
2. Web Wallet ทำหน้าที่ในการให้บริการกระเป๋าเงินดิจิตอล และออกแบบระบบ DasPay ให้กับ DasCoin
3. Das Financial ทำหน้าที่ บริหารจัดการเครือข่าย พัฒนาสินค้าและบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
4. Das Coin เป็นผู้เริ่มต้นคิดค้น สกุลเงิน DasCoin
แนวคิดของ Das Coin
1. CryptoCurrency ที่ถูกกฏหมายการเงิน
คือ มีการยืนยันตัวตนผู้ถือครองกระเป๋าเงิน ทำให้สารมารถตรวจสอบได้ว่า
ใครคือเจ้าของกระเป๋าเงินนี้ และตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ ซึ่งต่างจาก
Bitcoin ที่ตรวจสอบไม่ได้ ทำให้มีการนำ Bitcoin ไปใช้ในการ ซื้อ-ขาย
ยาเสพติด อาวุธสงคราม หรือสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆได้
2. ความคล่องตัวในการจับจ่ายใช้สอยแทนเงินสดได้ทั่วโลก คือ DasCoin มีการพัฒนาระบบ DasPay (เทียบเท่า Apple Pay ) ที่จะมาเป็นเครื่องมือในการใช้เหรียญ DasCoin จ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการ หรือร้านค้าต่างๆ
3.
CryptoCurrency ตัวแรกและตัวเดียว ที่มีเทคโนโลยี NFC ทำให้ขั้นตอน
การแลกเปลี่ยน การโอนจ่าย และ การรับเงิน ไม่ว่าจะเปนสกุลเงินใดๆ ทั่วโลก
ธุรกรรมสำเรจได้ภายใน 6 วินาที นี่แหละ คือความโดดเด่นของสกุลเงิน DasCoin ที่ยังไม่มีคริปโต้ตัวไหนบนโลกนี้ทำได้
4. CryptoCurrency ตัวแรกของโลกที่ visa , mastercard ยอมรับ เพราะระบบ mobile payment ที่ปลั๊กอินเข้าสู่ระบบ นั่นคือ DasPay
5. ข้อมูลเกี่ยวกับการขุด DasCoin (เรียกว่า Minting) การขุดเดือนแรก จะเป็น 80,000 dascoin ทุกๆ 10 นาที และจะลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ เดือนจนหมดภายใน 12 ปี เช่น เดือนแรกจะขุดได้ 80,000 dascoin ทุก ๆ 10 นาที และ เดือน ที่ 2 จะขุดได้ 40,000 dascoin ทุก 10 นาที... สรุปคือ Dascoin มีทั้งหมด 8,600 ล้าน Dascoin เริ่มเปิดเหมืองขุด มกราคม 2017 และจะขุดได้ครบในอีก 12 ปี ข้างหน้า...
5. ข้อมูลเกี่ยวกับการขุด DasCoin (เรียกว่า Minting) การขุดเดือนแรก จะเป็น 80,000 dascoin ทุกๆ 10 นาที และจะลดลงครึ่งหนึ่งทุกๆ เดือนจนหมดภายใน 12 ปี เช่น เดือนแรกจะขุดได้ 80,000 dascoin ทุก ๆ 10 นาที และ เดือน ที่ 2 จะขุดได้ 40,000 dascoin ทุก 10 นาที... สรุปคือ Dascoin มีทั้งหมด 8,600 ล้าน Dascoin เริ่มเปิดเหมืองขุด มกราคม 2017 และจะขุดได้ครบในอีก 12 ปี ข้างหน้า...
ประมาณการราคาในอนาคตของ DasCoin
เกิดจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้...
1. การสร้าง DasCoin โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีจำนวนที่แน่นอน
2. เป็นเงินดิจิตอลตัวแรกของโลก ที่จะเข้าวงจรเศรษฐกิจได้จริง และสามารถใช้จ่าย ในการซื้อขายสินค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วย DasPay
3. มีการนำระบบเน็ตเวิร์ค มาใช้ในการสร้าง Community ผู้ใช้ Software License DasCoin และด้วยพลังของระบบนี้เอง ทำให้มีผู้คนรู้จัก และนำเหรียญไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ในเวลาอันรวดเร็ว จึงจะทำให้ DasCoin มีมูลค่าทางการเงิน สูงขึ้นเรื่อยๆ ตาม Demand หรือ ความต้องการใช้ DasCoin นั่นเอง...
4. มีระบบสัญญาอัจฉริยะ( Smart Contract) คือ
ต่อไป ในอนาคต เวลาเราจะกู้เงิน หรือทำสัญญาต่างๆทางการเงิน เราไม่ต้องไปทำที่ธนาคารให้เสียเวลาแล้วครับ เราสามารถทำผ่าน โทรศัพท์มือถือของเราได้เลย และข้อมูลจะถูกบันทึกลงในระบบของ Blockchain
ธนาคารในประเทศไทยก็ได้เริ่มมีการนำ ระบบการทำสัญญาอัจฉริยะด้วย Blockchain นี้ มาใช้กันบ้างแล้ว โดย ธนาคารกสิกรไทย ประกาศความร่วมมือกับ IBM สร้าง Blockchain ขึ้นมาเพื่อใช้ในการรองรับเอกสารหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee :LG) ซึ่งหลักการก็เช่นเดียวกันกับ Blockchain อื่นๆ แต่ความพิเศษคือ ใช้ Hyperledger ของ IBM ที่ออกแบบเพื่อการประยุกต์ใช้ขององค์กรอื่นๆ ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้ คือ การเชิญชวนให้ทุกธนาคารเข้าร่วมมากที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ลดขั้นตอนการขอเอกสารที่ยุ่งยาก โดยองค์กรที่ดูแลของธนาคารกสิกรไทย คือ KBTG
5. มีการจัดเก็บข้อมูลด้วย ระบบ Blockchain ซึ่งจะปลอดภัยกว่าระบบของธนาคารปัจจุบันหลายเท่า ( Blockchain ประกอบไปด้วย Block ซึ่งหมายถึง 1 User และ Chain ซึ่งหมายถึงการส่งต่อข้อมูลระหว่าง Block นั่นเอง ) เพราาะ Block ทุกๆ Block ในโลกนี้ จะเชื่อมต่อถึงกันหมด และเวลาเราทำธุรกรรมข้อมูลจะถูกส่งไปยัง Block ทั่วโลกพร้อมๆกันด้วย Chain ทำให้เวลลาที่ แฮ็กเกอร์ จะแฮ็กข้อมูลในระบบ การเงินดิจิตอล จำเป็นจะต้องเข้าไปแฮ็กในทุกๆ Block ซึ่งมีจำนวนมหาสาน มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก...
และด้วยการเชื่อมต่อถึงกันทั่วโลกนี้ ทำให้เราทำธุรกรรมการเงิน เช่น
การโอนเงินระหว่างประเทศ ทำได้อย่างรวดเร็ว
กว่าการโอนเงินผ่านธนาคารหลายเท่า และแทบจะไม่มีค่าทำเนียบเลย
เพราะเป็นการโอนเงิน จาก Block ถึง Block โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร
ข้อนี้แหละครับ ที่จะมาฆ่าระบบการเงินของธนาคารในปัจจุบัน
5. สามารถแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินอื่นได้ทั่วโลก ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือ Forex ด้วย Platform Metatrader 4 หรือ MT4
1. การสร้าง DasCoin โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีจำนวนที่แน่นอน
2. เป็นเงินดิจิตอลตัวแรกของโลก ที่จะเข้าวงจรเศรษฐกิจได้จริง และสามารถใช้จ่าย ในการซื้อขายสินค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วย DasPay
3. มีการนำระบบเน็ตเวิร์ค มาใช้ในการสร้าง Community ผู้ใช้ Software License DasCoin และด้วยพลังของระบบนี้เอง ทำให้มีผู้คนรู้จัก และนำเหรียญไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ในเวลาอันรวดเร็ว จึงจะทำให้ DasCoin มีมูลค่าทางการเงิน สูงขึ้นเรื่อยๆ ตาม Demand หรือ ความต้องการใช้ DasCoin นั่นเอง...
4. มีระบบสัญญาอัจฉริยะ( Smart Contract) คือ
ต่อไป ในอนาคต เวลาเราจะกู้เงิน หรือทำสัญญาต่างๆทางการเงิน เราไม่ต้องไปทำที่ธนาคารให้เสียเวลาแล้วครับ เราสามารถทำผ่าน โทรศัพท์มือถือของเราได้เลย และข้อมูลจะถูกบันทึกลงในระบบของ Blockchain
ธนาคารในประเทศไทยก็ได้เริ่มมีการนำ ระบบการทำสัญญาอัจฉริยะด้วย Blockchain นี้ มาใช้กันบ้างแล้ว โดย ธนาคารกสิกรไทย ประกาศความร่วมมือกับ IBM สร้าง Blockchain ขึ้นมาเพื่อใช้ในการรองรับเอกสารหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee :LG) ซึ่งหลักการก็เช่นเดียวกันกับ Blockchain อื่นๆ แต่ความพิเศษคือ ใช้ Hyperledger ของ IBM ที่ออกแบบเพื่อการประยุกต์ใช้ขององค์กรอื่นๆ ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้ คือ การเชิญชวนให้ทุกธนาคารเข้าร่วมมากที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้ลดขั้นตอนการขอเอกสารที่ยุ่งยาก โดยองค์กรที่ดูแลของธนาคารกสิกรไทย คือ KBTG
5. มีการจัดเก็บข้อมูลด้วย ระบบ Blockchain ซึ่งจะปลอดภัยกว่าระบบของธนาคารปัจจุบันหลายเท่า ( Blockchain ประกอบไปด้วย Block ซึ่งหมายถึง 1 User และ Chain ซึ่งหมายถึงการส่งต่อข้อมูลระหว่าง Block นั่นเอง ) เพราาะ Block ทุกๆ Block ในโลกนี้ จะเชื่อมต่อถึงกันหมด และเวลาเราทำธุรกรรมข้อมูลจะถูกส่งไปยัง Block ทั่วโลกพร้อมๆกันด้วย Chain ทำให้เวลลาที่ แฮ็กเกอร์ จะแฮ็กข้อมูลในระบบ การเงินดิจิตอล จำเป็นจะต้องเข้าไปแฮ็กในทุกๆ Block ซึ่งมีจำนวนมหาสาน มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก...
5. สามารถแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินอื่นได้ทั่วโลก ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือ Forex ด้วย Platform Metatrader 4 หรือ MT4
กำหนดการต่างๆ ของ DasCoin
แผนภาพกำหนดแพลนระบบต่างๆ ของ DasNet System |
แผนการตลาดของ DasCoin
DasCoin ก็ขึ้นอยู่กับ Demand (ความต้องการซื้อ) และ Supply (ความต้องการขาย) องค์ประกอบในส่วนของ Supply นั้น บริษัทสร้างออกมาให้อยู่แล้ว จะขาดก็แต่ Demand นั่นแหละครับ เราจะทำยังไง ให้คนรู้จัก DasCoin เยอะๆ จะทำยังไง ให้คนหันมาใช้เงินดิจิตอลที่ชื่อ DasCoin กันเยอะๆ เพื่อให้เกิด Demand ที่สูง ในเวลาอันรวดเร็ว ทางบริษัทก็เลยเลือกที่จะเอาสกุลเงินตัวนี้
มารันในระบบของ MLM คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าคงรู้จักพลังของ
MLM กันดีอยู่แล้ว ว่ามันกระจายตัวได้เร็วขนาดไหน และเมื่อมีองค์ประกอบครบ
มี Demand ที่สูง ราคาของ DasCoin ก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และท้ายที่สุด เมื่อผู้คนมาใช้เงินสกุลนี้กันเยอะขึ้น DasCoin ก็จะเป็นที่ยอมรับในระบบการเงิน และจะสามารถนำมาใช้ในระบบเศรษฐกิจได้จริง ตามจุดประสงค์ของผู้สร้าง ที่หวังเอาไว้ต่อไป...
1. การสมัคร License DasCoin ในสถานะนักลงทุน (Customer)
เพื่อการใช้งานอย่างเดียว เช่น การซื้อขาย , การใช้ระบบฟังก์ชั่นต่างๆ
(สามารถแนะนำธุรกิจได้ แต่ไม่มีค่าบริหารองค์กรให้)
2. การสมัคร License DasCoin ในสถานะธุรกิจ (Advocate) มีหน้าที่ ประชาสัมพันธ์ DasCoin ให้เป็นที่รู้จักในสังคมโลก หรือพูดง่ายๆก็คือ สมัครทำธุรกิจเพื่อสร้างทีมนั่นแหละครับ...
เงินสกุลหนึ่งๆ มันจะไม่มีค่าอะไรเลย
ถ้ามันไม่สามารถเอาไปแลกกับของมีค่าอย่างอื่นได้ หรือไม่สามารถ
เอาไปแลกเป็นเงินสกุลอื่นได้ การขายเหรียญ DasCoin ก็คือการเอา DasCoin ไปแลกกับเงินสกุลอื่นนั่นแหละครับ
เช่น เราเป็นคนไทย เวลาเราจะไปเที่ยวเกาหลี เราก็ต้องเอาเงินไทย
ไปแลกเป็นเงินเกาหลี เพื่อที่จะเอาไปใช้จ่ายในตอนที่เราอยู่ในประเทศนั้น
การขาย DasCoin ให้กับประเทศต่างๆก็เหมือนกับการเอา DasCoin ไปแลกเป็นเงินของประเทศนั้น นั่งเองครับ และเมื่อมีสกุลเงินหลายประเทศเข้ามาแลกเป็น DasCoin เยอะขึ้น ก็จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น (ราคา DasCoin สูงขึ้น ตาม Demandที่เพิ่มขึ้นนั่นเองครับ)
การสมัครในข้อนี้ คือการสมัครเป็น Advocate จะเสียค่าสมัครอยู่ที่
90 ยูโร ครับ แต่ตอนนี้ บริษัทลดให้ 50% เหลือ 45 ยูโร ครับ
แล้วสิ่งที่เราจะได้จากการเป็นตัวแทนในการขายเหรียญ DasCoin ก็คือ รายได้จากแผนการตลาดของบริษัทที่จะกล่าวต่อไปนี้ครับ
อ่านมาตั้งนาน คงมีคนสงสัยว่า DasCoin จะเอาไปใช้ซื้อของได้ยังไง จะมีใครที่ไหนยอมรับ... ???
คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ!!!